วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

จากการที่ผมได้สำภาษมา 5 คน ที่ชื่อชอบ convers

มีผู้คนหลายคนบอกความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปและบอกเกี่ยวกับยี่ห้อรองเท้า convers
ผมได้ไปสำภาษ คน แรกมา 

     เค้าชื่อ เอ็ม เรียน อยู่ที่มอรังสิต เค้าได้บอกว่าเค้าชื่น ชอบรองเท้ายี่ห้อ convers มากเพราะเป็นรองเท้าที่ดูดีมีหลากหลาย และยิ่งกว่านั้น ไม่ใช้สำหรับใส่ไปเท่ไปวันๆเค้ายังบอกอีก ว่าใส่ เล่นพวกกีฬาได้อีก
      
     คนที่2 ชื่อ อาม เรียน ม.กรุงเทพ คนนี้เค้าบอกวิธีการใส่รองเท้าให้เข้ากับเสื้อผ้าให้ดูดีเค้าบอกว่ารองเท้ายี่ห้อ convers สามารถแต่งได้ทุกแนวแต่ ส่วนใหญ่คนจะแต่งกับแนว O  School ได้ดีมากกว่าเพราะดูเท่มาก

    คนที่3 ชื่อ ฟาง เรียน ม.กรุงเทพ คนนี้อีกคนนะคับเค้าได้สะสมรองเท้ายี่ห้อ convers เยอะมากเลยคับผมแทบ จะไม่เชื่อเค้าเปิดท้ายรถให้ ผม ดูมีรองเท้า convers ทุกรุ่นเลยคับ เป็นนักสะสมตัวจริงจิงๆ เลยคับแถว

เค้ายังฝากรูปรองเท้าตัวเก่าของเค้ามาให้เราดูอีกคนตัวโปรดของเค้าเลย









คนที่4 ชื่อ k เรียนอยู่ ม.รังสิต เค้าบอกผมว่ามันไม่เกี่ยวกับการแต่งตัวหรืออะไรแค่เราใส่รองเท้ายี่ห้อconvres ก็ดูเท่ได้แล้วไม่จำเป็นต้องตามแนวคนอื่นเป็นตัวของตัวเราเองก็พอแล้ว

คนที่5 ชื่อ เฟิส คนนี้เพื่อนผมเรียนอยู่ม.รังสิต เค้าบอกว่า รองเท้า convers ที่จิงเป็นรองเท้าของนักกีฬาบาส และ วัยรุ่นกลุ่มนึงเห็นว่ามันสวยดีเค้าเลยนำมาใส่และเป็นแฟชั่นยอดฮิตของ ทั่วโรงและเป็นรองเท้าที่ มีลวดลาย ที่เท่และดูแปลก และยังมีรายการ์ตูนอีกผมจะเอาภาพมาให้ดูนะคับ







                                                                                        







วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

วิธีซักรองเท้าคอนเวิด How to Wash Converse Shoe



ขอแนะนำวิธีการทำความสะอาดรองเท้าคอนเวิด รับรองว่าดูดีและยังสวยเหมือนเดิม เนื่องจากรองเท้า Converse มีส่วนประกอบหลักสองส่วนคือ พื้นรองเท้าและผ้าบุรองเท้า เทคนิควิธีการทำความสะอาดจึงไม่เหมือนรองเท้าทั่วไป ที่จับมาโยนใส่ถังแล้วใช้แปรงขัด หากทำไปแบบนั้นแล้วจะทำให้รองเท้าไม่สวยเหมือนวันที่ซื้อมา ลองมาวิธีการจัดการกับรองเท้าคอนเวิดคู่เก่งของคุณกัน
เตรียมอุปกรณ์สำหรับการซักรองเท้าคอนเวิดดังนี้
1.แปรงสีฟันเก่า - ใช้สำหรับแปรงทำความสะอาดพื้นผิวรองเท้า
2.น้ำยาล้างจาน - ใช้เป็นน้ำยาขณะที่เราขัดถูรองเท้า
3.ฟองน้ำ - ใช้เช็ดคราบฟองที่เกิดจากน้ำยาล้างจาน
วิธีการซัก Converse Shoe ที่ถูกต้อง (สำหรับผม) ให้เริ่มโดยการดึงสายรองเท้าออกให้หมดเพื่อความสะดวก แล้วมาเริ่มกัน
1.นำฟองน้ำที่เตรียมไว้จุ่มน้ำแล้วเช็ดเฉพาำะบริเวณพื้นยางสีขาวส่วนหัวและรอบๆรองเท้า (ถ้าเป็นสีอื่นก็แล้วแต่นะครับ) เพื่อให้พื้นผิวมีความอ่อนตัว พยายามอย่าให้โดนพื้นผ้าบุรองเท้า ผมแนะนำให้ทำทีละข้างนะครับ
2.บีบน้ำยาลงบนแปรงสีฟัน แล้วทำการถูเป็นวงกลมเบาๆ ค่อยๆทำไปทีละจุด เริ่มจากส่วนหัวรองเท้าแล้ววนไปรอบๆ ถ้ารู้สึกว่าฟืดๆ ให้บีบน้ำยาล้างจานเพิ่มลงไปบนแปรงสีฟัน ทำจนเสร็จ
3.ใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำธรรมดา แล้วบีบให้แห้ง จากนั้นเช็ดบริเวณที่ถูด้วยน้ำยาล้างจาน โดยเช็ดให้ไปในทางเดียวกัน อย่าถูไปถูมา ทำสลับกับการจุ่มน้ำ-บีบ-เช็ด จนสะอาด
4.นำน้ำยาล้างจาน บีบลงบนแปรงสีฟัน (นิดเดียว ห้ามเยอะนะ) จากนั้นถูกเบา(สุดๆ) บริเวณตรารองเท้าคอนเวิด หากมีส่วนอื่นๆที่สกปรกก็สามารถทำได้ แต่จำไว้ว่าต้องเบามือสุดๆนะครับ ไม่งั้นตราดาว Converse ลอกหรือหายไปก็ได้ครับ
คำเตือน ผมขอแนะนำไว้ก่อนนะครับว่า อย่านำน้ำยาล้างจานไปถูที่ผ้าบุรองเท้าเป็นอันขาดนะครับ ให้ถูเฉพาะที่พื้นยางเท่านั้น ตรงส่วนของผ้าไม่ต้องซักด้วยวิธีใดๆทั้งสิน ปล่อยให้เก่าๆ(บริเวณผ้าบุ) จะทำให้รองเท้าสวยครับ ขอเพิ่มเติมเรื่องกลิ่น แนะนำให้นำถ่านไฟ(สีดำๆ) ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ 2-3รอบ แล้วเจาะรูเล็กๆรอบๆ นำไปใส่ไว้ในรองเท้า รับรองว่านอกจากจะดูดีขึ้น ยังจะหอมขึ้นอีกด้วยครับ
วิธีการซักรองเท้าคอนเวิดของผม จะทำให้รองเท้าคุณดูใหม่ขึ้นมาทันทีครับ รับประกันว่าใหม่และขาวเหมือนตอนซื้อ


อ้างอิงมาจากตัวผมเอง ที่เขียนเองและได้ ทำด้วยตัวเอง




มาใหม่ๆเลย ทดลองทำดูได้ครับ ได้ผลอย่างไร Feedback กลับกันเข้ามานะครับ

วิวัฒนาการของรองเท้า Converse ในยุค 70's ถึง 90's


วันนี้เราจะมาพูดถึงความหลังกัน ลองมาย้อนดูอดีตกันว่ารองเท้า Converse ในอดีตที่พอจะหารูปมาได้ จนถึงปัจจุบันกันว่ามีความคลาสสิคยังไง รูปแบบดีไซน์เมื่อก่อนนี้หน้าตาประมาณไหนลองมาดูกันครับ


Converse 70's



งานดูไม่เรียบร้อย เบี้ยวๆ เพราะเป็นงานแฮนเมด และที่ลิ้นรองเท้าไม่มีป้ายผ้า ALL STAR ยุค 80 ก็ไม่มี จะเริ่มมีก็ตั้งแต่ยุค 90 เป็นต้นมาครับ



ป้ายด้านหลังเริ่มแรกจะใช้ป้ายสีดำแบบในภาพ รุ่นที่เห็นจะเป็นใส้ตะเกียงครับ
ใส้ตะเกียงคือแถบผ้าที่อยูตรงส้นเท้าหลัง ที่เป็นผ้าหรือวัสดุคนละแบบกับตัวบอร์ดี้รองเท้า




ที่ซอฟรองเท้าตรงคำว่า Converse จะพิมพ์ด้วยสีดำ ถ้ายุคปี 80 จะเป็นสีน้ำเงิน




Converse 80's



หัวรองเท้าจะเล็กกว่ายุค 90 บางล็อตขีดดำเส้นบนจะใหญ่มากดังรูป



ซอฟจะเป็นแบบนี้ ส่วนสีดำจะหายากกว่า



อันนี้เป็นความเชื่อเล็กๆที่บอกกันมาว่า ป้าย All Star วงกลมด้านข้าง บนสุดสังเกตที่ภาพ ป้ายจะต้องมีติ่งเล็กๆอยู่ จากการเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ พบว่ามีเฉพาะของอเมริกาเท่านั้นที่มีติ่งนี้อยู่ สาเหตุุเพราะมันเป็นป้ายสติ๊กเกอร์ร้อน ซึ่งติ่งนี้ใช้เป็นตัวแกะเวลาที่ลอกออกแล้วเอาไปติดที่รองเท้าครับ แต่ถ้ามือ2 เก่าๆอาจหลุดหายไปก็มีแต่น้อยคู่ครับ


ตรงกลางพื้นที่เบอร์รองเท้า สังเกตที่ภาพมันจะมีดาวหกแฉกดวงเล็กๆอยู่ ของไทยไม่มี ของเกาหลีและอื่นๆมี แต่ของอเมริกาดาวจะมีรูตรงกลาง ของเกาหลีและอื่นๆไม่มี และด้านบนสุดที่พี้นช่องสี่เหลี่ยมยาวมันจะมีลายยางเล็กๆตามไปหมด ของเมกาจะเป็นรูปข้าวหลามตัด ส่วนเกาหลีจะเป็นแท่งสีเหลี่ยม แต่ของไทยและอื่นๆมันก็เป็นสี่เหลี่ยมนะแต่ไม่ละเอียดเท่าของ USA


ป้ายส้นถ้าเป็นรุ่นไส้ตะเกียงมันจะมีในยุค 60-80 ในประเทศอื่นไม่มี
ปี 80 ฐานการผลิตจะมีแต่อยู่ในอเมริกาเท่านั้น



เย็บกันขอบจะเรียกกันว่า ด้ายข้าง มีตั้งแต่ 80 ลงมา 70-60 ยุค 90 ขึ้นไปจะไม่มีครับ




กล่องยุค 80 จะมีอยู่ด้วยกันสองแบบครับ




Converse 90's

หัวรองเท้าของปี 90 จะโตเยอะกว่า 80 และ 70



จะเริ่มมีการใช้บาร์โค้ดมาใช้กับรองเท้า ซึ่งจะพบได้เฉพาะสินค้าที่ได้มาตราฐาน แต่บางคู่อาจจะไม่มีเนื่องมาจากเป็นสินค้าที่ผิดมาตรฐาน หรือผิดรูปทรงต่างๆ จากการผลิต ก็จะไม่มีบาร์โค้ดนี้อยู่ครับ




ที่ซอฟพื้นรองเท้า สังเกตด้านขวามือ มีรูปรองเท้า 3 คู่ และด้านหลังถัดมาจะมีสัญลักษณ์เหลี่ยมเล็กๆ 2 อันอยู่ เจ้านี่มันจะบอกว่าทำจากวัสดุอะไร เช่นสัญลักษณ์สีเหลี่ยม 2 อันหมายถึง ผ้าใบ ส่วนสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดก็คือ ยางพื้น และประเทศที่ผลิตอื่นๆจะไม่มีคำว่า made in usa แต่จะมีชื่อประเทศผลิตนั้นๆที่ตรงบาร์โคดอยู่ที่สลิปด้านใน ส่วนเกาหลีมันจะเป็นแสตมป์เย็บติดไว้ที่ลิ้นเหมือนกัน




ซอฟสองลายนี้เป็นลายสุดท้ายก่อนปิดโรงงานที่อเมริกา

อ้างอิงมาจากเว็ป http://www.bkkconverse.com/2011/05/converse-70s-90s.html

converse all star

 converse all star เป็นรุ่นที่มี รายตัวการ์ตูนและรายธงชาติอเมริกา เป็นที่นิยมของวัยเด็กๆ เพราะมีรายตัวการ์ตูนที่เท่และน่ารักแตก ต่างออกไปจากรุ่นอื่นๆ ที่มี เป็นรุ่นที่ทำออกมาเพื่อเด็กรักๆ แต่วัยรุ่นส่วนใหญ่ก็ชอบซื้อและเอาไปแต่งแนว O school เพราะมันจะดูแตกต่างและเท่ไม่เหมือนใคร

รายธงชาติอเมริกา


รายตัวการตูนโจ๊กเก้อ

รายตัวการตูนน่ารักของผู้หญิง

วิธีการสังเกต Converse ของแท้และของปลอม

วันนึงผมก็ได้ไปเจอข้อมูลที่ถือว่ามีประโยชน์ทีเดียวสำหรับนักเล่น Converse หลายๆท่าน มันอาจจะช่วยให้เพื่อนๆ รู้วิธีการสังเกตรองเท้า Converse ของปลอมทั้งหมดของรองเท้าโดยเฉพาะรุ่น Chuck Taylor หวังช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อคุณไปช้อปปิ้ง ซึ่งรุ่น All Star นี้มีราคาขายที่มีราคาสูงพอสมควร และแน่นอนบทความนี้จะนำเอาของจริงมาเปรียบเทียบกันให้เห็นชัดๆว่ารองเท้าคอนเวิร์สของปลอมแตกต่างจากของแท้อย่างไร มีจุดบกพร่องบางอย่างที่คุณสามารถมองเห็นได้ง่ายๆจากวิธีที่สังเกตดังนี้ครับ


ของแท้ : โลโก้มีความชัดเจนเป็นรูปดาวและมีลายเซ็น Chuck Taylor อยู่บนโลโก้ด้วย
ของปลอม : โลโก้ดูมัวๆดูน่าเกรียดดูยังไงก็ไม่ใช่แน่นอน และเปลี่ยนแปลงคำบางคำของชื่อสินค้าด้วย


ของแท้ : ป้ายสลิปจะปักด้วยฝีเข็มแบบถี่ โลโก้นูนดูชัดเจน เมื่อสัมผัสจะลื่นๆ
ของปลอม : ลักษณะการปักจะเป็นแบบตารางดอทดังภาพ ดูไม่ชัดเจน สัมผัสแล้วจะสากมือ


ของแท้ : ขีดรอบเล็กจะมีความชัดเจน เก็บงานได้เนี๊ยบเข้ากับทรงรองเม้าที่เห็นได้ชัดเจน
ของปลอม : จากภาพของปลอมจะผิดรูปบิดเบี้ยวไม่ได้ทรง และหัวจะป่องกว่าของจริง




ของแท้ : แท็กกระดาษมีความน่าเชื่อถือ มีรูปภาพพิมพ์และคุณสมบัติต่างๆอย่างชัดเจน
ของปลอม : แท็กของปลอมจะมีข้อมูลที่ไม่เคลีย เป็นเพียงกระดาษด้อยคุณภาพแผ่นบางๆ ที่ไม่มีข้อมูลการรับประกัน หรือเอกสารการผลิตที่สำคัญอื่นๆ เมื่อนำมาจุ่มน้ำสีจะตกด้วยครับ

นอกจากนี้ยังมีข้อแตกต่างจากภาพที่เห็นด้านล่าง อาจช่วยให้คุณรู้ถึงจุดที่แตกต่างได้มากทีเดียว
จากภาพจะมีความแตกต่างกันที่ขอบยางและป้ายที่ชัดเจนถึง 3 จุด ที่สำคัญเวลารองเท้านำมา หัก, บิด เวลาเดินหรือทำกิจกรรมต่างๆ ยางจะไม่ปริออกจากตัวขอบผ้าครับ



โลโก้พิมพ์ลายชัดเจนไม่จืดหรือไม่แตกตัวเมื่อโดนการเสียดสี



ของแท้จะมีปุ่มยางส่วนเกินเล็กๆที่เกิดจาก บล็อกแม่พิมพ์ ผลิตรองเท้า Converse ที่มีมาแต่ช้านาน และยางที่พื้นของแท้จะมีความยืดหยุ่นสูงใช้เล็บจิกจะคืนรูปได้รวดเร็ว ส่วนของปลอมจะเป็นยางคุณภาพต่ำลักษณะแข็งเหมือนพลาสติกลื่นไถลได้ง่าย


กระดาษห่อรองเท้าจะแตกต่างอย่างเห็นไชดเจน

อ้างอิงมาจากเว็ป http://www.bkkconverse.com/2011/05/how-to-spot-fake-converse-converse.html